แนะนำให้อ่านใน Chrome บราวเซอรฺนะคะ

วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2557

[Fiction The evil within] Everything’s gonna be alright [Luvik x Leslie]

สวัสดีค่ะ ตอนนี้กำลังติดเกมส์งอมแงม The evil within ค่ะขนาดว่าเอามาเขียนฟิคกันเลยทีเดียว
ไม่รู้จะเป็นยังไงนะค่ะ เพราะพึ่งเขียนเสร็จเมื่อกี้ ตอนนี้ก็ 0:06 น. ค่ะ มีพิมพ์ผิดบ้าง แล้วก็ไม่รู้ว่า จะสื่อ
ความคิดของตัวละครออกไปได้ชึดเจนไหม แบบว่าง่วงมาก อะแฮร่ แต่ยังไงก็ฝากฟิคเรื่องนี้ด้วยนะค่ะ





The evil within
Pairing : Ruvik x Laslie
Title : Everything’s gonna be alright



เลสลี้...นายเจ็บมากไหม อ่า...นายคงต้องทรมานมากแน่ๆ นายต้องเจ็บปวดกับการทดลองบ้าๆนี่ นายต้องเจ็บปวดกับมันมากจริงๆ ฉันไม่อยากจะทำร้ายนาย ไม่อยากให้นายต้องเจ็บปวด นายพิเศษ เลสลี้ นายเป็นคนเดียวที่เชื่อมต่อมาถึงฉันได้ นายเป็นคนที่พิเศษ เลสลี้ แต่เพราะความพิเศษนั้น ถึงทำให้นายต้องมาทุกข์ทรมานแบบนี้ ฉันนี้มัน...แย่จริงๆนะ...

นี่ถ้าฉันหายไป...นายจะมีความสุขมากกว่านี้ไหม?
ถ้าฉันไม่อยู่สักคนละก็...ชีวิตของนายต้องดีมากกว่านี้แน่ๆ

เฮือกหนุ่มร่างบางผมขาวสะดุ้งขึ้นจากเสียงด้วยความตกใจ เขาหอมหายใจอย่างบ้าคลั่งแล้วมองไปรอบๆหัวเอง มันเป็นเพียงห้องสี่เหลี่ยมจตุรัสสีขาวโพลน ไม่มีสิ่งของตบแต่งอะไรมากมาย มีเพียงเตียงที่เขานอนอยู่กับโต๊ะหัวเตียง และเก้าอี้ธรรมดาๆที่อยู่ในห้องนั้น เขาค่อยๆตั้งสติของตัวเองแล้วลุกขึ้นยืน เดินไปที่กรอบสี่เหลี่ยมแล้วยื่นมือไปปิดลูกปิดประตูเพื่อเปิดมันและออกไปด้านนอก เขามองทางเดินอย่างเงียบๆ มองไปรอบๆโดนที่ในหัวมันว่างเปล่า เดินไปอย่างไม่มีจุดหมาย และเป้าหมายอะไรเลย

เฮ เลสลี้มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลัง และน้ำหนักของมือที่วางลงบนไหล่ซ้ายของเขา เขาหยุดเดินแล้วค่อยๆหันไปข้างหลังเพื่อมองคนที่รั้งเขาไว้
นาย โอเคแล้วเหรอ? รู้สึกอย่างไงบ้าง?ชายที่ออกจะดูสูงอายุ มีหนวดเครา สวมเครื่องแบบถามขึ้น เลสลี้มองอย่างพิจราณา แล้วพยักหน้า
โอ...เค โอเคเหมือนเขาจะเข้าใจความหมายของคำพูด รู้เรื่องหมดทุกๆอย่าง แต่การแสดงออกของเขานั้นมันก็ไม่เหมือนคนปรกติทั่วไป ถึงในจิตใจตอนนี้มันจะว่างเปล่า แต่มันก็มีความหวาดกลัวที่ฝังลึกอยู่ในใจของเขาไม่จางหายไป การแสดงออกแบบปรกติ เขาน่ะ ลืมมันไปหมดแล้วละ...

เวลาได้ผ่านเลยไป ตอนนี้ชายหนุ่มร่างบาง เลสลี้เลสลี้ก็กลับมาอยู่ในห้องของตัวเอง นั่งอยู่บนเตียงโดนมองออกไปข้างนอกผ่านหน้าต่างบนชั้นบนสุดของโรงพยาบาล นั่งคิดทบทวนถึงเหตุการณ์ทุกอย่าง มีภาพต่างๆมากมายพุดขึ้นมาในตัวเองเขา เขาอยากจะนึกให้ออกว่ามันคืออะไร และด้วยความเหนื่อยล่า ที่คิดอะไรๆมากไป จึงทำให้เขาเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างง่ายดาย...

เฮ้ เลสลี้ แล้วตกลงนายคิดยังไง...
เลสลี้ลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเขามองซ้ายมองขวานี้มันห้องของเขาที่โรงพยาบาล ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเปลี่ยน นอกจากมีผู้ชายคนนี้ ผู้ชายที่เหมือนกับคนก่อนหน้านี้มานั่งอยู่ข้างๆเขา เขายันตัวเองที่นอนอยู่ให้ลุกขึ้นนั่ง แล้วจ้องมองไปยังชายคนนั้น
ฉันน่ะ สมควรจะต้องอยู่ หรือ หายไปดี นายคิดว่ายังไง...
นายอยากให้ฉันอยู่หรือตาย? เลสลี้
 ตายงั้นเหรอ ไม่นะ ผมไม่อยากให้หายไปไหน อยากให้อยู่... อยู่กับ...ผมเอ๋นี้เราพูดอะไรออกไป เรากำลังทำอะไร เรากำลังพูดอยู่กับ...
อยากให้ฉันอยู่ด้วยเหรอ
เลสลี้พยักหน้าแทนคำตอบ
หึ แล้วคนที่นายอยากให้อยู่ด้วยอย่างฉัน นายรู้ไหม ว่าฉันนะ เป็นใคร?
ใครอย่างนั้นเหรอ?เลสลี้พูดทวนคำถาม
ใช่ ฉันชื่ออะไร
ชื่อ...ชื่อว่า...

รูวิค

พรืบ เลสลี้ลืมตาตื่นขึ้นมา เขาลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็วแล้วมองไปรอบๆตัวเอง กวาดสาบตาไปทั่วทั้งห้อง เอ๋นี่เรา กำลังหาอะไรอยู่...หรือว่าจะ....รูวิค คนๆนั้นชื่อว่า รูวิค

รูวิค อยู่ไหน...

ก๊อก ก๊อก ก๊อก แอดมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นแล้วตามด้วยประตูที่เปิดออก อ่าผู้ชายคนเมื่อวาน
ไงเลสลี้ ฉัน เซบาสเตียน และก็นี้ คุณหมอ ฉันจะบอกกับแต่เรื่องที่อยากให้เธอได้เข้าการบำบัด รักษาอาการป่วยของเธอ (ไรท์เตอร์: หมายถึงอาการทางประสาทนะค่ะ) ตอนนี้เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอ เรื่องร้ายๆมันจบลงแล้ว นายต้องเปลี่ยนตัวเอง เปลี่ยนการใช้ชีวิต เข้ารับการรักษา ให้หายเป็นปรกติซะ แล้วใช้ชีวิตเหมือนคนปรกติ
ปรกติเลสลี้พูดออกมา แต่ก็ได้เพียงแค่นั้น มันไม่เหมือนกับตอนนี้อยู่กับคนที่ชื่อ รูวิค ตัวเขาและท่าทางของเขา สิ่งที่เขาพูดมันดูปรกติมาก มันดูเหมือนฝันเลยนะ แต่ความรู้สึก ความอบอุ่นที่ออกมาจากตัวเขามันส่งผ่านมาถึงตัวเขา เขารับรู้ถึงมันได้ชัดเจนเลย  
นายจะว่ายังไงเลสลี้ นายตกลงไหม นายจะได้กลับไปเป็นปรกติปรกติงั้นเหรอ ถ้าผมไปกับคนที่ชื่อเซบาสเตียน ผมก็จะได้เป็นปรกติ แล้วผมก็จะได้คุยกับ รูวิค ได้... มันเป็นแบบนั้นหรือเปล่านะ
เลสลี้พยักหน้ารับตกลงกับเซบาสเตียนเบาๆ และทุกอย่างมันก็ดำเดินไปเรื่อยๆตามวิธีการของมัน



3 ปีผ่านไป
นี่ก็ผ่านมานานมากแล้วหลังจากที่เหตุการเลวร้ายที่มันเกิดขึ้นกับผมซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้จบลง ตอนนี้ผมคิดว่าผมเป็นปรกติ ผมใช้ชีวิตแบบคนปรกติ ตอนนี้ผมช่วยงาน เซบาสเตียน อยู่ที่บ้านของเขา งานบ้านเล็กๆน้อยๆ เขาอาสาจะดูแลผม ถึงแม้ผมจะไม่ใช่เด็กๆแล้วก็ตามที ผมรู้สึกโอเคกับชีวิตตอนนี้นะ ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ในหัวมันจะว่างเปล่าไม่มีอะไรเลยก็ตามแต่มันก็ไม่สำคัญสักเท่าไหร่ ที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือ ผมนะ มีคนที่รักคอยอยู่ข้างๆ คนรักของผมนะเหรอ ฮี่ ก็ รูวิค นั้นแหละครับตอนนี้เขาก็เป็นเหมือนวิญญาณคอยลอยไปลอยมาอยู่กับผมตลอด แต่ถ้าจะบอกว่าผมมารักกับผีได้ยังไงนะเหรอ ก็คงเป็น หลังจากที่ผมรักษาตัวจนหายแล้ว เซบาสเตียน กับ รูวิค ก็ค่อยๆเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับผมให้ฟัง ผมเองก็รับรู้และเปิดใจยอมรับมัน รวมถึงยอมรับ คำขอโทษจาก รูวิค และ คำสารภาพรักจากเขา ผมรู้สึกเขินจริงๆนะ เขานะชอบผมมากจริงๆ แต่ก็แย่หน่อยที่ผีกับคนจะมา...

ก๊อง ก๊อง ก๊อง
อ่าครับผมส่งเสียงตอบคนที่มาเขาะประตูแล้วเก็บ ไดอารี่ ไว้ใต้หมอน
ไง
เซบาสเตียน มีอะไรเหรอ?
มีข่าวดีน่ะ
“…?” ข่าวดี แหมช่วงนี้ได้ฟังบ่อยจริงๆ ก็หลังจากที่ชีวืตผมดีขึ้น ทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิตมันก็เป็นเรื่องดีหมดละนะ
รูวิค นะ ฟิ้นแล้วละ
รูวิค...อ่า ผมยิ้มออกมาทั้งน้ำตา ข่าวดีมันมีเยอะมากก็จริง แต่สำหรับผมนะข่าวนี้ มันเป็นข่าวดีที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมาเลยแหละ ผมไม่รอช้ารีบกระโดดขึ้นรถเซบาสเตียนและตรงไปที่โรงพยาบาลทันที เมื่อถึงผมก็รีบวิ่งไปที่ห้องของเขา ในใจมันรู้สึกตื่นเต้น และ ดีใจ ดีใจที่จะได้พบเขา เขาที่เป็นเขา เขาที่สามารถสัมผัสได้
ปังเสียงประตูเปิดเสียงดังด้วยความรวดเร็ว เลสลี้มองไปที่เตียงคนไข้ก็ตบกับหมอที่อยู่ภายในห้องกับคนที่เขารอคอยมาตลอด เมื่อทั้งสองคนได้สบตากัน ก็เหมือนกับโลกทั้งใบมันน่าอยู่ขึ้นมาทันใด เลสลี้วิ่งเข้าไปหารูวิค และกอดเขาไว้แน่น และก็มีน้ำตาแห่งความดีใจไหลอาบแก้มของเลสลี้
ไงเสียงทักทานที่ออกมาจากปากรูวิคที่กำลังยิ้มอ่อนโยนให้กับเขานั้น มันย้ำให้เลสลี้รู้ว่านี้มันคือเรื่องจริง อ่ามันน่าดีใจจริงๆ เขาส่งยิ้มดีใจด้วยใบหน้าสวยที่เบื้อนน้ำตาไปให้คนตรงหน้า
ยินดีต้อนรับกลับนะ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น